Skip to content

ยอดตั้งบริษัทใหม่ 2 เดือนเกิน 1.7 หมื่นราย อีคอมเมิร์ซ-ท่องเที่ยว-รถอีวี โดดเด่น

ยอดตั้งบริษัทใหม่ 2 เดือนเกิน 1.7 หมื่นราย อีคอมเมิร์ซ-ท่องเที่ยว-รถอีวี โดดเด่น

ยอดการจดทะเบียนธุรกิจใหม่พุ่ง ใน 2 เดือนแรกของปี 2567

ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2567 ประเทศไทยได้เห็นการเติบโตที่น่าประทับใจในจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ, ด้วยยอดรวมทะลุ 17,270 ราย และทุนจดทะเบียนรวมสูงถึง 45,794.41 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนการจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 1.57% และทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 14.52% ตามการเปิดเผยของนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

การเติบโตของธุรกิจใหม่ในช่วงนี้โดยเฉพาะอยู่ในสาขา “อีคอมเมิร์ซ”, “ท่องเที่ยว”, และ “รถยนต์ไฟฟ้า (EV)” ซึ่งเป็นธุรกิจที่แสดงถึงการเติบโตแบบกระโดด และรับเมกะเทรนด์ของรัฐบาลได้อย่างชัดเจน

– “อีคอมเมิร์ซ” เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการจดทะเบียนธุรกิจใหม่สะสม 479 ราย, เพิ่มขึ้น 31.96% จากปีก่อนหน้า

– “ท่องเที่ยว” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการจัดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างมาก สะท้อนถึงการฟื้นตัวและเติบโตอย่างชัดเจนหลังจากสถานการณ์โควิด-19

– “รถยนต์ไฟฟ้า (EV)” มีการเติบโตที่น่าสนใจ ทั้งในกลุ่มผู้ผลิตระบบควบคุมไฟฟ้า ระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสถานีชาร์จ ตามนโยบายส่งเสริมของรัฐบาล

การเติบโตของธุรกิจใหม่ในช่วงนี้ไม่จำกัดอยู่เพียงหมวดหมู่เฉพาะ แต่กระจายไปทุกประเภทธุรกิจ โดยมีการจดทะเบียนสูงสุดในหมวดก่อสร้างอาคารทั่วไป, อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร

แนวโน้มการจดทะเบียนธุรกิจในอนาคต

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม คาดการณ์ว่าตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งในปี 2567 จะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สนับสนุนโดยสภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและระดับโลก, การบริโภคภาคเอกชน, การส่งออก และโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ, รวมถึงนโยบาย Bio-Circular-Green Economy (BCG Model)

การเติบโตของธุรกิจใหม่ในปี 2567 สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่อสภาวะเศรษฐกิจไทย และการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับโอกาสในอนาคต และความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ยังเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี, นวัตกรรมและการปรับตัวของภาคธุรกิจไทยให้สอดคล้องกับกระแสโลก

การเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต

เพื่อรองรับและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจใหม่เหล่านี้ รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแผนและดำเนินนโยบายที่ชัดเจน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตและการพัฒนาของธุรกิจ นอกจากนี้ การลงทุนในการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะแรงงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหล่านี้ เช่น ดิจิทัลมาร์เกตติ้งสำหรับอีคอมเมิร์ซ การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว และเทคโนโลยีการผลิตและบริการสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปสู่อนาคต

ยอดการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ใน 2 เดือนแรกของปี 2567 แสดงถึงการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่มีศักยภาพสูง ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ, ท่องเที่ยว, และรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวอย่างของสาขาที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต การสนับสนุนและการปรับตัวของภาครัฐและภาคธุรกิจจะเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศไทยในเวทีโลก